วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2554

สอบสัมภาษณ์ AFS (1)


          คราวนี้ป๊อปเขียนเรื่อง การสอบของ AFS อีกที หวังว่าจะช่วยอะไรเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่สอบในปีนี้ได้บ้าง เพราะอย่างที่ป๊อปบอกตอนกระทู้แรกคือ ก่อนป๊อปจะสอบป๊อปหาข้อมูลเยอะมากกก จากหลายๆที่ และรุ่นพี่หลายๆคน และก็เจออะไรมาเองด้วยอยากเล่าให้ทุกคนได้ฟังบ้าง ดีใจกับทุกคนที่สอบข้อเขียน ผ่านนะคะ ความฝันใกล้เข้ามาอีกขั้นแล้ว ขอโชคดีในการสอบสัมภาษณ์เช่นกัน สู้ๆ

ก่อนสัมภาษณ์  คำแนะนำจากรุ่นพี่ (หมายถึงรุ่นพี่ของป๊อปอีกที )
1.ยิ้มเข้าไว้
2.เป็นตัวของตัวเอง กล้าพูด กล้าแสดงออก
3.กระฉับกระเฉงไว้
4.ทักทายคุณครูหรือรุ่นพี่ที่สัมภาษณ์อย่างสุภาพ
5.ไม่เข้าใจคำถามข้อไหนก็ขอคำอธิบายเพิ่มได้
6.พยายามตอบ วกเข้ามาเรื่องที่เราถนัด
7.พยายามสื่อสาร ตอบให้คุณครูหรือพี่ๆที่สัมภาษณ์เข้าใจ
8. เราอาจจะถูกถามเป็นภาษาอังกฤษ หรือภาษาไทยก็ได้

            คำถามที่มีรุ่นพี่เคยเจอ ป๊อปหาไว้สมัยป๊อปสอบ ข้อมูลจาก www.afser.in.th เช่นเคย + ขอบคุณชาว Ita 50 สำหรับคำถามแรงๆที่ทุกคนเล่าให้ฟัง : D
ก่อนเราจะเข้าสอบสัมภาษณ์จะมีกระดาษขาวๆมาวางตรงหน้าเราพร้อมที่ว่างมากมายให้เราเขียนดังต่อไปนี้
-           ถ้าได้เป็นหัวหน้าจะ...
-           แม่ส่วนใหญ่จะ….
-           นักเรียนแลกเปลี่ยนคือ….
-           ฉันเป็นคน….
-           เพื่อนๆมักคิดว่าฉันชอบ….
-           อยากให้ประเทศไทย….
-           ฉันเกลียด….
-           การนินทา...
-           ครอบครัวของฉันเป็น.....
-           ฮีโร่ของฉันคือ......
-           ฉันชอบ.....
-           เมื่อเจอเด็กวัยรุ่นกำลังจูบกันฉันจะ..... 
          มีอีกเยอะมากกก ที่เรากรอกไปกรรมการเค้าจะดูพร้อมกับใบสมัครเวลาสัมภาษณ์ บางข้อที่เราตอบเค้าอาจจะถามเพิ่มเติมว่าทำไมตอบแบบนั้น


ป๊อปแบ่งเป็น คำถามเกี่ยวกับประเทศที่เราเลือก คำถามเกี่ยวกับวัฒนธรรมไทย และประเทศไทย คำถามเกี่ยวกับสถาณการณ์ต่างๆ และคำถามอื่นๆ

แนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษ  : รุ่นพี่แนะนำว่าให้บอกชื่อ อายุ วันเกิด โรงเรียน ครอบครัว ความสามารถพิเศษ ความสนใจ และ ประเทศที่เลือกตอบสอบ

เกี่ยวกับประเทศที่เราเลือก
-          ทำไมถึงเลือกประเทศนี้
-           ถ้าติดประเทศแปลกๆที่เราไม่รู้จักจะไปมั๊ย
-           รู้อะไรเกี่ยวกับประเทศที่เราเลือกนั้นบ้าง
-           รู้ประวิติศาสตร์ประเทศที่อยากไปมากแค่ไหน
-           ไปอยู่ชนบทได้มั๊ย

เกี่ยวกับวัฒนธรรมไทย และประเทศไท
-           เรารู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับการเมืองไทยปัจจุบันบ้าง
-           ทำอาหารไทยเป็นมั๊ย  ถ้าเป็นลองบอกลวิธีทำต้มยำกุ้งเป็นภาษาอังกฤษ
-           พุทธศาสนาสอนอะไร
-           ทำไมพระต้องบิณทบาท จะอธิบายให้ชาวต่างชาติเข้าใจได้ยังไงว่า มันไม่ใช่การขอทาน
-           งานเทศกาลประจำจังหวัดของเรา
-           แนะนำประเทศไทยและจังหวัดของตัวเอง
-           ความเป็นไทยที่เราสามารถแสดงให้คนต่างชาติเห็นได้
-           ทำไมเมืองไทยมีโสเภนีเยอะ
-           จะอธิบายเขายังไง ที่เขามองว่าไทยเป็นประเทศโสเภณี ?
-           ทำไมคนไทยถึงเคารพพระเจ้าอยู่หัว?
-           สงกรานต์คืออะไร?
เกี่ยวกับสถาณการณ์ต่างๆ
- จะทักทายโฮสต์ว่าอย่างไร เมื่อโฮสต์มารับ
- จะทำยังไงถ้าเงินของโฮสต์หายไป แล้วโฮสต์สงสัยเรา
- เราอยู่ต่างประเทศแล้วพ่อแม่หรือญาติพี่น้องเสียชีวิต
- ทำยังไงถ้ามีคนชวนดื่ม
- ลงจากรสบัสแล้ว ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน หรือหลงทางจะทำยังไง
- มีคนชวนมีเซ็กส์จะปฎิเสธยังไง
-           ถ้าโดนเหยียดสีผิว
-           โฮสต์ไม่ให้ใช้เน็ต
-           เมื่อเกิดโฮมซิก (อาการคิดถึงบ้าน) จะทำยังไง
-           มีคนมาขอจูบ
-           โฮสต์น้องอิจฉา
-           โฮสต์งี่เง่า
-           ทะเลาะกับโฮสต์
-           มีคนเอามีดจี้จะทำยังไง
-           ลูกโฮสต์ไม่คุยด้วย
-           เจอคนแปลกหน้าจะเริ่มคุยว่า
-           โฮสต์หยาบคาย
-           ไม่มีหม้อหุงข้าว
-           คนที่นู่นดูถูกในหลวง
-           ซื้อของตังค์ไม่พอจ่าย
-           เจอคนสูบบุหรี่
-           แม่ที่ไทยมีปัญหา
-           ลูกโฮสต์ยืมเงิน
-           ลูกโฮสต์ลวนลาม
-           ทำไงถ้าพูดสื่อสารไม่ได้
-           ของฝากให้ โฮสต์จะให้อะไร
-           เจอคนจูบกันกลางถนนจะทำยังไง
-           โฮสต์เป็นมังสวิรัติ
-           โฮสต์ให้เปลี่ยนศาสนา
-           โฮสต์เคร่งศาสนามาก
-           คุณอยู่ตัวคนเดียวแล้วโรงเรียนไฟไหม้ คุณไม่มีโทรศัพท์ คุณจะทำอย่างไร?
-           คุณคิดยังไงกับ"เกย์" และ "เลสเบี้ยน"??
-           ถ้าเพื่อนอกหักจะแนะนำยังไง ?
-           คุณจะแนะนำเพื่อนที่ชอบกินพวกจั๊งฟู๊ดยังไง ?
-           คุณคิดว่าคุณจะมีเซ็กส์มั๊ย ?
คำถามอื่นๆ
-           ตัวเองมีข้อดีข้อเสียอะไร
-           เล่นอินเตอร์เน็ตไหม เข้าเว็บอะไรบ้าง
-           อยากบอกอะไรก่อนจบสัมภาษณ์
-           ถ้าเลือกเกิดเป็น โลมา นก สุนัขได้จะเลือกเป็นอะไร เพราะอะไร
-           ทำไมเอเอฟเอสถึงต้องเลือกคุณเข้าร่วมโครงการด้วย ?
-           กลับมาแล้วจะทำอะไรเป็นอย่างแรก
-           อะไรคือสึ่งที่ดีที่สุดในชีวิตของคุณ ?
-           ทำไมคุณถึงเลือกที่จะสอบโครงการ AFS ?






วันเสาร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2554

สอบข้อเขียน


        ป๊อปตั้งใจจะสมัคร AFS ตั้งแต่แรก ถึงแม้จะรีๆรอๆ อยู่นาน วันนึงก็มีรุ่นพี่ 2 คนเข้ามาในห้อง ประชาสัมพันธ์เรื่องสอบ AFS รุ่นพี่คนนั้นคือ พี่จอย (Ita 49) กับพี่อีกคนนึงที่ป๊อปไม่รู้จัก พี่เค้าไปประชาสัมพันธ์ม.3 ทุกห้อง เลยมีคนสนใจจะสอบเพิ่มขึ้นอีกเยอะมาก (ปีนี้ป๊อปก็อยากไปพูดบ้างงงง แต่ยังไม่มีอ. ท่านใดติดต่อมา เลยประชาสัมพันธ์แบบไม่เป็นทางการ (ตลอดเวลาเหมือนเซเว่น) กับเพื่อนรอบข้าง 555)
         เฉพาะ ม.3 น่าจะประมาณ 20 คน หรือมากกว่านั้นที่ไปสอบ แต่เพื่อนๆป๊อปที่เคยคุยๆกันไว้ไม่ไปสักคน ป๊อปเลยชวนเพื่อนอีกคนนึงไปสอบเป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ เด็กม.3 2 คน ข้ามสะพานไปม.ปลาย ตามหาครู สมัคร จนได้บัตรสอบสีฟ้า(เก็บไว้ดีๆเลย!)และข้อสอบเก่ามาคนละชุด 

ซื้อใบสมัครได้ที่ศุนย์ประจำจังหวัด เช่นเชียงใหม่ก็คือ ร.รวัฒโน (แต่ป๊อปไม่รู้นะว่าตรงไหนของวัฒโน) หรือ ซื้อที่ครูคนที่ดูแลเรื่อง AFS จะมีครูที่ดูแลอยู่ สำหรับ P.R.C คือครูหทัยทิพย์นะคะ ไปหาครูได้ที่ห้องพักครู

          1-2 อาทิตย์ก่อนสอบ เป็นช่วงเวลาที่ป๊อปทำข้อสอบเก่าอย่างเดียวเลย ทำย้อนหลังหลายๆปีเท่าที่จะหาได้ สำหรับคนที่ยังไม่รู้ หาข้อสอบเก่าได้ตามลิงค์นี้เลย  http://www.afser.in.th/forum/index.php?topic=1307.0  ตอนทำต้องจับเวลาไว้ด้วยนะ สมมุติว่าเรากำลังสอบอยู่จริงๆ เป็นการซ้อมที่ดีที่สุด บางข้อที่ไม่เข้าใจ ถึงแม้จะมีเฉลยมา ก็เก็บเอาไปถามเพื่อน ,ถามครู ถามป๊อปก็ได้ ป๊อปเต็มใจตอบ

ข้อสอบ มีอะไรบ้าง
หมวดภาษาไทย 
           รุ่น 50 ไม่มี ป๊อปไม่รู้ว่ารุ่น 51 จะมีมั๊ย ข้อสอบรุ่นก่อนหน้านั้นมีหมด จะมีที่เป็นภาษาไทย 20 ข้อ 10 ข้อเป็นเรื่องของภาษาไทย เช่น คำเป็น คำตาย สำนวน วรรณยุกต์ และอื่นๆ ป๊อปว่ามันไม่ยากเท่าไหร่ ป๊อปไม่ได้อ่านหนังสือเลยในส่วนนี้เพราะมันจะเยอะเกินไป อาศัยว่าตั้งใจเรียนวิชาภาษาไทยมาโดยตลอด 555
อีก 10 ข้อเป็นสังคม จะเกี่ยวกับเรื่องวัฒนธรรม ข่าวสารบ้านเมือง และ ความรู้รอบตัว  ป๊อปว่ามันยากนะ ที่เคยทำๆไป แต่แอบให้อภัยตัวเองเล็กน้อย เพราะข้อสอบมันหลายปีแล้ว ป๊อปจำจำข่าวช่วงนั้นไม่ได้หรอก ข้อสอบของปี 46 ตอนนั้นป๊อปอยู่ป.6 เอง! 555

 หมวดภาษาอังกฤษ รุ่น 50 เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด

ป๊อปเจอบล็อกของรุ่นพี่คนนึงที่เขียนไว้ดีมากเรื่องข้อสอบ เลยขอแบ่งปันลิงค์ให้เพื่อนๆตามไปอ่านกัน
ป๊อปขออธิบายเพิ่มเติม อ่านบล็อกของพี่เค้าก่อนแล้วค่อยเลื่อนลงมาอ่านนะ เดี่ยวงง

การหา MainIdea  ตอนป๊อปเรียน AUA ได้เรียนเรื่องการสแกน (เรียนตอน เลเวล 9 แต่ตอนสอบAFSอยู่เลเวล 6 555)มันคือการอ่านอย่างรวดเร็วเพื่อหาคำตอบหรือข้อมูลอย่างคร่าวๆ เป็นเรื่องที่ควรฝึกอย่างมาก เพราะว่าในข้อสอบ AFS มีให้อ่านเยอะ บางที บทความทั้งหน้า ตอบ 3 คำถาม แล้วคำถามไม่ใช่แบบง่ายๆด้วย เป็นชนิดที่ว่าเราต้องอ่าน ต้องเข้าใจเรื่อง แล้ววิเคราะห์ เช่น ป๊อปเขียนจดหมายถึงเพื่อน คำถามคือ ป๊อปน่าจะอยู่ที่ไหน ป๊อปน่าจะเป็นคนยังไง แบบนี้เลย แต่ไม่ต้องกังวลใจเย็นๆๆ สำคัญคือ อย่าเครียดถ้าเจอคำศัพท์ที่ไม่รู้ ข้ามๆมันไป ดูบริบทแล้วเดาเอา
คำศัพท์  ถ้าเรารู้รากศัพท์ก็ดีไป แต่ถ้าไม่รู้เหลือทางสุดท้าย.... คิดถึงความเป็นไปได้ แล้วกาเลย!
Error  จะมีประมาณ 5 ข้อ แต่เป็น 5 ข้อที่ยากจริงจังและอยู่หลังสุด ยอมรับเลยป๊อปไม่แม่น และมั่วเล็กน้อย เพราะทำไม่ค่อยทัน

วันสอบ
         ป๊อปตื่นตีสี่ มานั่งท่องศัพท์ที่เคยจดๆไว้ คิดว่าจำเพิ่มได้นิดนึงก็ยังดี เพื่อเจอ แล้วก็ไปสอบที่ร.ร วัฒโน ระหว่างทางคุยกับแม่ “แม่ตื่นเต้นเนาะ เครียดๆ” นาทีนั้นภาษาอังกฤษสำคัญเป็นอันดับ 1 ในสมองเลย ชนิดที่ว่า เจอป้ายอะไรก็ตามที่มีทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย ป๊อปจะเห็นภาษาอังกฤษก่อน 5555 พอไปถึงร.ร แม่ก็ไล่ลงรถ ให้ป๊อปไปเผชิญโลก (เว่อร์ไป)
          พอถึงปุ๊บ ก็มีเสียงประกาศเรียก น.ร ที่จะสอบไปดูรายชื่อพอดี มีบอร์ดรายชื่อขนาดใหญ่ตั้งอยู่ เราต้องดูก่อนว่าจะได้สอบที่ห้องไหน ถ้าหาไม่เจอ หรือปัญหาอะไรติดต่อรุ่นพี่ ได้เลย รุ่นพี่เค้าจะใส่เสื้อ AFS อยู่ มีหลายแบบหลายรุ่น สวยๆทั้งน้าน (ทั้งเสื้อและรุ่นพี่ อิอิ)
          พอดูรายชื่อเสร็จแล้วก็ยังไม่เห็นเพื่อนที่ชวนมาด้วยกันซักที แต่ก็เจอเพื่อนที่รู้จักกันอยู่บ้างเลยไปนั่งคุยกับเค้า 1 ในนั้นคือ กานต์ แคนาดารุ่นที่ 50 (เพื่อนคนนี้เก่งมากกก) ทุกคนกำลังคุยกันเรื่องข้อสอบเก่า แล้วก็เก็งกันว่าใครบ้างจะผ่าน มีชื่อคนเก่งๆหลายคนแต่หนึ่งในนั้นไม่มีป๊อปหรอก บอกแล้วไงป๊อปไม่เก่ง ผิดหวังมั๊ย 555
          จนถึงเวลาเข้าสอบ เพื่อนป๊อปก็ยังไม่มา AFS เค้าให้เข้าห้องสายได้ไม่เกิน 15 นาทีหลังจากนั้นจะหมดสิทธิ์สอบ อย่าไปสายกันล่ะไม่งั้นเสียดายแย่ จนสุดท้ายเพื่อนป๊อปก็ไม่มา ปรากฏว่ามันลืมว่าวันนี้สอบ เลยตื่นสาย จบเลย

เมื่อเจอข้อสอบ
1.ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งตื่นเต้นจนสติแตก อย่าคิดเรื่องอื่น มุ่งไปที่ข้อสอบตรงหน้าอย่างเดียว มันมีช่วงสั้นๆช่วงนึงที่ป๊ปอสติแตก แบบว่าโอ้ยยย มาทำอะไรตรงนี้เนี่ย มันยากจัง ทำไม่ได้หรอก แต่อีกเสียงนึงก็บอกว่า แล้วจะคิดมากทำไม ทำๆไปซี้ มานั่งอยู่นี่แล้วนะ ตอนนั้นป๊อปไม่คิดถึงเรื่องทุนอะไรแล้ว ไม่คาดหวังอะไรมาก แค่ทำข้อสอบให้ดีที่สุดก็พอ

2. อย่าจมอยู่กับแต่ละข้อนานเกินไป (อย่างที่ป๊อปเคยทำ) เพราะเวลาทำมันสั้นมาก และข้อสอบก็เยอะมากก ไม่ได้ก็ข้ามไปบ้าง ถ้าเราค้างกับข้อไหนนานๆ เราคิดๆๆๆ แล้วก็คิดไม่ออก แล้วก็ง่วง อาจจะเผลอหลับ มีหลายคนทำ

3.ถ้าเครียดมาก หรือทำไม่ได้ เปิดต่อไปที่หน้าหลังๆ มันมักจะมีการ์ตูนมาให้อ่านแล้วให้ตอบคำถาม ทำอันนั้นก่อน สนุกดี จะได้หายเครียด ป๊อปเปิดไปทำการ์ตูนก่อน แล้วก็หัวเราะคิกคักอยู่คนเดียวแอบเห็นพี่โต๊ะข้างๆเหลือบตามอง ประมาณว่า น้องนี่ขำอะไร?

4. ตรวจให้ดีว่ากรอกข้อมูลต่างๆรึยัง เอ้อ ป๊ปอรีบย้ำว่าอย่าลืมดีสอ 2 บี กับยางลบ เอาก้อนที่ใช้ถนัดที่สุด 555

5. ป๊อปไม่รู้ว่าเค้ามีเกณ การสอบผ่านยังไง เพราะคะแนเป็นความลับ ไม่มีใครรู้เลย รุ่นพี่บางคนบอกว่า เค้าจะเอาคะแนนมาเรียงกัน แต่อันนี้ไม่แน่ใจนะ แต่ว่าอย่าคิดมาก ทำให้เต็มที่ รุ่นป๊อปตอนปฐมนิเทศเค้าบอกว่ามีคนสอบ 8000 คน สอบผ่านข้อเขียน 5000 คนแน่ะ

6. คะแนนข้อเขียนจะเอาไปรวมกับคะแนนสัมภาษณ์และมีผลต่อการเลือกประเทศ หรือการเป็นตัวจริงตัวสำรองด้วย เพราะฉะนั้นทำให้ดีที่สุด โชคดีค่ะ!


วันอังคารที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เตรียมตัวสอบข้อเขียน AFS

เป็นเรื่องการเตรียมตัวสอบของป๊อปเอง กับคำถามที่ว่า ทำไงให้สอบได้ ทำไงให้เก่งอังกฤษ (จริงๆป๊อปก็ไม่เจ๋งเท่าไหร่หรอกบอกตรงๆ อย่าคาดหวังกันมากเกินไป 555) หวังว่าคนที่ตั้งใจจะสอบในเดือนมิถุนาที่จะถึงจะได้อะไรไปบ้างนะ ; )

ป๊อปทำอะไรบ้าง
1.เรียนพิเศษภาษาอังกฤษ  
                  อันนี้เป็นอย่างแรกที่ป๊อปเริ่มทำ แต่ไม่ใช่ว่าป๊อปแนะนำให้ไปเรียนพิเศษนะ ป๊อปว่าจริงๆแล้วมันก็ไม่จำเป็น เราสามารถจะเรียนด้วยตัวเองได้ และได้ดีกว่าด้วยถ้าเราตั้งใจ เพียงแต่อยากจะเล่าให้ฟัง ป๊อปเรียนที่บริติชก่อนเป็นคอร์สแรก ก่อนจะเรียนก็ต้อง สอบข้อเขียนแล้วก็สอบสัมภาษณ์ พอสัมภาษณ์ ป๊อปก็คุยๆกับเค้าไป ซักพักเค้าบอกว่ารู้มั๊ยว่าคะแนนข้อเขียนของคุณน่ะได้แค่ 9 จาก 40 เองนะ ซึ่งคะแนนระดับเนี้ยจะต้องเริ่มเรียนตั้งแต่ระดับที่ 1 แต่ ฉันว่าถ้าจัดให้เธอไปเรียนระดับแรกเธอจะต้องฉลาดกว่าทุกคนในห้องแน่ เพราะฉะนั้นจะดีกว่าถ้าอยู่ระดับที่ 3 โอเคนะ  แล้วเค้าก็ให้ป๊อปเริ่มเรียนเลเวล 3 แบบ งงๆ 5555
ตอนเรียนก็สนุกดี ครูในห้องจะเน้นให้เราพูดเยอะๆ ให้แสดงความคิดเห็น  ป๊อป เน้นว่าป๊อปคนเดียวเจอคำถามประเภท What do you think about that? บ่อยมากๆๆๆ ละครูในห้องชอบเรียกป๊อปว่า Perfectionist ไม่รู้แซวหรือชม 555
ต่อมาก็เปลี่ยนที่เรียนตามเพื่อนไปที่ AUA มีเรื่องนึงอยากเล่าคือ ที่ AUA เนี่ยพอเราเรียนเสร็จเค้าจะมีเกรดให้เช่น AA ดีมาก A ดี ตอนป๊อปเรียนคอร์สแรก ป๊อปคิดไว้เลยว่าจะต้องได้ AA ให้ได้! แต่อ่านในเน็ตเค้าบอกว่าห้องนึงจะได้ AA ไม่กี่คน ถ้าอยากได้AA ต้องทำแบบนี้ๆๆๆ ป๊อปก็ทำเลย ครูถามอะไรตอบๆๆ เรียกคะแนนสุดๆ  ตั้งใจเรียนมาก ตอนเรียนนี่แทบไม่คุย แต่ออกนอกห้องก็อีกเรื่องนึง 555 จนสุดท้ายก็ได้ AA มาทุกคอร์ส  ป๊อปจะสื่อว่าถ้าเราตั้งใจมันก็ได้เยอะ ไม่ใช่แค่เกรด แต่ว่าได้ฝึกพูด ได้แสดงความเห็น เราจะพัฒนาได้ก็ตรงนี้ แต่อย่างที่บอกไปแล้วว่าจริงๆมันไม่ได้จำเป็น ถ้าจะเรียนก็ต้องตั้งใจเรียนจริงๆ ป๊อปไม่เห็นด้วยกับบางคนที่ไปเรียนพิเศษกับเพื่อน แล้วก็ไปนั่งคุยกับเพื่อนซะ โดดซะ มันก็ไม่ได้อะไรเสียดายเวลามากกว่า

2.ฟังเพลงภาษาอังกฤษ
                ป๊อปชอบฟังเพลงมากก โทรศัพท์นี่มีไว้ฟังเพลงเลย ฟังทุกที่ ทุกเวลา บางทีนอนไม่หลับยังเปิดเพลงฟังไปด้วย ป๊อปว่าเพลงมันช่วยอะไรได้หลายๆอย่าง มันทำให้จำคำศัพท์ง่ายขึ้น ได้สำเนียงด้วย ป๊อปมีนักร้องคนโปรดอยู่คนนึงที่ชอบมากๆๆ คือ Nicole Scherzinger เป็นครูสอนภาษาอังกฤษของป๊อปเลยล่ะ นอกจากจะฟังเพลงเค้า ร้องตามเค้า ป๊อปชอบดูบทสัมภาษณ์ รายการอะไรที่เค้าไปออก แต่ละคลิปนี่ป๊อปต้องดู 5-6 รอบได้ รอบแรกดูหน้านิโคลอย่างเดียวฟังอะไรไม่รู้เรื่องซักอย่าง 555 รอบหลังๆค่อยพยายามฟังที่เค้าพูด ภาษาอังกฤษดีขึ้นเพราะนิโคลเลยนะเนี่ย
วิธีฟังเพลงของป๊อป
  1. เลือกเพลงอะไรก็ได้ที่เราชอบ
  2. ฟังซัก 4 5 รอบ เดาๆดูว่าเพลงพูดถึงอะไร
  3. ดูเนื้อเพลง แล้วก็เปิดดิคดูคำที่ไม่รู้
* ส่วนใหญ่ป๊อปไม่ได้เปิดดิคหรอกเพราะอยู่หน้าคอมใช้ Google translate แทน แต่ด้วยกลัวมันแปลมั่ว ลองเซิร์ซคำนั้นเป็นรูปภาพ จะได้ชัวร์และจำเป็นรูปภาพง่ายดีด้วย * เวลา ใช้ Google translate กรอกเป็นคำๆจะดีนะ อย่าใส่ทั้งประโยคเดี่ยวพี่เกิลเค้ามั่วใส่
  1. กลับมาฟังเพลงอีกรอบ แต่ไม่ต้องดูเนื้อเพลงพร้อมกัน เราจะเริ่มได้ยินแต่ละคำชัดเจนขึ้น แล้วก็จะคิดว่า อ๋อออ นี่ไงคำนี้ที่เห็นในเนื้อเพลง
              ทีนี้เราจะฟังเพลงสนุกขึ้น เราจะเข้าใจเนื้อร้อง เข้าใจ สิ่งที่เพลงต้องการจะสื่อ การฟังเพลงก็สนุกตรงนี้แหละ แต่บางทีป๊อปก็ไม่เข้าใจทุกคำ ทุกประโยคหรอก อย่างแร็บของ Eminem ฟังไม่ทันทั้งหมดจริงๆ หรือบางเพลงมันก็มีความหมายแฝงต้องลองเซิร์ซหาความหมายในเน็ต แปลอังกฤษให้เป็นอังกฤษอีกที
3. ดูหนังภาษาอังกฤษ

                  ใครที่ชอบดูหนังเหมือนป๊อปจะไม่มีวันเบื่อ 555  ดูหนังฟังเพลงก็เรียนอังกฤษไปด้วยได้ มีวิธีเล็กน้อย ช่วงนึงป๊อปบ้าดู Gossip girl มากๆ แม่ซื้อดีวีดีบ็อกเซตให้เลย ป๊อปนั่งดูทีละตอนๆ รอบแรกดูแบบอังกฤษ ซับ อังกฤษ พร้อมสมุดหนึ่งเล่ม คำไหนไม่รู้ก็จดๆๆๆ จะได้สำนวนอะไรเยอะมากๆ อย่างตัวกอสซิบเกิร์ล ชอบพูดสำนวนจิกๆ 555 (จริงๆดูแบบไม่ต้องมีซับเลยก็คงดี แต่ตอนนั้นภาษาอังกฤษป๊อปแย่มากไงไม่มีซับเลยคงดูไม่รู้เรื่องขนาดหนัก) อีกรอบนึงก็ดูแบบอังกฤษซับไทยก็จะเข้าใจเรื่อง แต่มันต้องเป็นหนังอะไรที่เราชอบมากจริงๆถึงจะดูได้ไม่งั้นเบื่อ คราวหลังเวลาเช่าหนังมาดูลองเช่าแบบดีวีดีแล้วเปิดอังกฤษซับอังกฤษดู หรือถ้าว่างก็ดู 3 รอบไปเลย รอบแรกแบบไม่ซับ รอบสองแบบซับอังกฤษ รอบสามค่อยซับไทย แต่ดูแบบเป็นซีรีย์ก็สนุกดี เพราะแต่ละตอนมันสั้นๆ ป๊อปแนะนำ Glee เลยตอนนี้ สนุกมากๆ
  1. อ่านหนังสือภาษาอังกฤษ
                 เป็นอีกเรื่องนึงที่ป๊อปชอบทำ แต่อ่านหนังสือแต่ละเล่มมันใช้วลานานหน่อย เวลาป๊อปอ่านป๊อปจะไม่เปิดดิคหาคำที่ไม่รู้ทีละคำๆ เพราะมันเสียเวลา ตอนแรกๆเคยทำ หลังๆมาเวลาไม่รู้คำไหนก็จดๆไว้แล้วค่อยเปิดดิคทีหลัง  คำไหนที่ไม่รู้พอเจอบ่อยๆ ดูบริบทในหนังสือแล้วก้จะรู้เอง จำได้ว่าอ่านเรื่อง Around the world in 80 days แล้วเจอคำว่า  Merchant (พ่อค้าวานิช) ป๊อปดันไปจำสลับกับ Servant (คนรับใช้ ไม่ใกล้เคียงกันเลยอ่ะ 555)  อ่านๆไปก็เจอประโยคว่าเขาเป็นคนรับใช้ที่ร่ำรวย และได้รับการนับถือที่สุดในแถบนี้ ฮา ไม่ใช่ล่ะๆ อ่านไปอีกครึ่งหน้าถึงเดาออกว่า merchant ไม่ใช่คนใช้นี่นา 5555


  1. ท่องศัพท์
จำสมุดที่ป๊อปจดตอนอ่านหนังสือ ดูหนังได้มั๊ย อันนั้นแหละ เอามาท่องๆ  แล้วก็ท่องศัพท์จากหนังสือพวก อังกฤษ 1000 คำน่ารู้ หนังสือภาพเด็กๆแบบนั้นน่ะแหละ มีประโยชน์มากเลยเพราะว่า ป๊อปเพิ่งมาตั้งใจกับภาษาอังกฤษตอนนี้ไง ศัพท์อะไรที่เราควรจะรู้เราก็ไม่รู้ถึงต้องพยายามท่องให้รู้ไว้ ป๊อปท่องวันนึง 30-60 คำได้ ป๊อปใช้วีธีคัดเอาคัดทั้งตัวสะกดและคำแปล ระหว่างคัดก็อ่านไปด้วย แล้วมันจะจำได้เอง 






7.อ่านหนังสือแกรมม่า และหนังสือสอนภาษาอังกฤษ
แกรมม่า เรียนไปงั้นๆ ไม่รู้เรื่อง แต่พอมาอ่านเองทำความเข้าใจเองมันเข้าใจได้แล้วเราก็จะคลิก! กับภาษาอังกฤษ  สำคัญมากๆ ถึงจะจำไม่ได้ทั้งหมด แต่ได้ดูผ่านๆตา พอเราอ่านหนังสือเราจะเจอแกรมม่าพวกนี้ อ่านบ่อยๆเจอบ่อยๆก็จำได้เอง ขอแนะนำเล่มนึง หนังสือเรื่อง Memolody ของครุพี่แนน ป๊อปชอบมากๆ อ่านไปฮาไป ได้ความรู้ด้วย!
2เล่มนี้ดีมากๆ ละเอียดสุดๆ มีการ์ตูนฮาประกอบด้วยในเล่ม ป๊อปชอบตรงนี้แหละ ; )
หนังสือแกรมม่าสุดรักสุดหวงที่ได้จากแม่มา แม่ใช้สมัยแม่อยู่ม.ปลาย  ของเค้าดีจริง ขลังมากใครอยากอ่านมาขอยืมได้

  1. หาเพื่อนต่างชาติ อันนี้ก่อนสอบป๊อปไม่เคยทำ แต่ตอนนี้ทำอยู่
          ตอนนี้ป๊อปเรียนภาษาอิตาเลียนอยู่ในเว็บ www.livemocha.com ขอแนะนำเลย เราสามารถเรียนได้หลายภาษามากๆ ทั้งอังกฤษจีน สเปน ญี่ปุ่น   เยอะมาก เว็บนี้ดีตรงที่ว่า เราจะต้องหาแต้มมาปลดล็อกเรียนแต่ละคอร์ส แต้มจะได้จากการตรวจแบบฝึกหัดที่มีคนทำไว้ เพราะว่าในแต่ละคอร์สเราจะต้องทำแบบฝึกหัดด้วย เช่น ป๊อปทำแบบฝึกหัดการอ่านออกเสียง ป๊อปก็อ่าน อัดเสียง ขึ้นเว็บ แล้วก็มีคนอิตาเลียน เข้ามาตรวจดู ติชม แล้วก็ให้คำแนะนำ เค้าก็ได้แต้มไป แต่ถ้าเค้าแนะนำไม่ดี เราก็กด not useful ให้เค้าได้  เพราะว่าในเว็บมีคนเรียนภาษาไทยไม่เยอะ ป๊อปก็เลยต้องตรวจอันที่เป็นภาษาอังกฤษ ตอนแรกเขินมากที่จะแก้ให้คนอื่น 5555 เพราะว่าเราไม่ได้เป๊ะขนาดนั้นไง กว่าจะแก้ให้ใครนี่ป๊อปต้องเปิดหนังสือเช็คหลายเล่มกลัวแก้ให้เค้าผิด ยิ่งคนก็อายุเยอะแล้ว ผมทองแบบฝรั่งมาเลย แล้วเราต้องแก้ที่เค้าผิด เขินมาก 555 คือเราเด็กกว่า ในประเทศเราภาษาอังกฤษก็ไม่ใช่ภาษาที่ 2 ที่ 3 ทั้งนั่น แต่มันก็ไม่มีอะไรนะ คือเค้าไม่ถือ ที่เราจะเด็กกว่า หรือเป็นคนชาติไหน ตอนแก้ๆกันนี่แหละเราจะได้เพื่อนด้วย ได้จากทั่วโลกเลย ตอนนี้ป๊อปมีเพื่อนเป็นคนอาหรับ กับคนรัสเซียด้วยนะ! แนะนำเลยๆ ใครที่สมัครแล้วแอดเพื่อนมาได้ที่ http://www.livemocha.com/profiles/view/9373114

9. ทำข้อสอบย้อนหลัง 
        อันนี้สำคัญมากๆ เวลาเราไปสมัคร เราจะได้ใบสมัครมา พร้อมกับข้อสอบเก่าของปีที่แล้วและเฉลย แต่ป๊อปทำย้อนหลังก่อนนั้นไปอีก ตอนป๊อปสอบป๊อปทำของปี 46 47 แล้วก็ 49 จับเวลาให้เท่าข้อสอบของจริงด้วย จำได้ว่าทำข้อสอบชุดแรกเลยได้ 53 จาก 100 5555 พอชุดที่ 2 ก็ได้มากขึ้น ของ 49 รู้สึกป๊อปก็ได้แค่ 73 เองมั้ง แต่ว่าของที่สอบจริงนี่ไม่รู้เพราะว่าเค้าจะไม่ประกาศผลคะแนน แล้วก็เวลาประกาศชื่อคนที่ติดก็ไม่เรียงตามลำดับคะแนนเหมือนกัน
สำหรับดาวน์โหลดข้อสอบชุดก่อนๆ
 (ขอบคุณรุ่นพี่ AFSer มากๆค่ะ : ))
แต่ว่ามันไม่มีเฉลยของรุ่น 49 อือ บางทีถ้าป๊อปได้ของ รุ่น 50 คนไหนมาอาจจะเอามาแบ่งปันกัน ส่วนใหญ่เก็บไว้ไหนกันก็ไม่รู้แล้ว ป๊อปเป็นหนึ่งในนั้นแหละ
** www.afser.in.th เป็นแหล่งรวมตัวของนักเรียนเอเอฟเอสหลายๆรุ่น มีประโยชน์มากๆเลย เพราะว่ามีรุ่นพี่มาเขียนบทความดีๆกันมากมาย และถ้าเราสงสัยอะไรเราก็โพสต์ถามได้ มีคนรอตอบเพียบบ 

 

เริ่มต้น

ตอนป๊อปอยู่ม.2 พ่อเล่าให้ฟังตอนนั่งรถไปโรงเรียนว่าเพื่อนพ่อเป็นเจ้าหน้าที่ทำงานกับโครงการ( UCE โครงการเยาวชนยูซีอี. แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระยะสั้น 3, 5 หรือ 9 อาทิตย์) พ่อถามป๊อปว่าสนใจมั๊ย  แล้วพ่อก็เล่าเรื่องพี่หญิง (พี่หญิง อาร์เจนติน่า รุ่น 48) ซึ่งเป็นลูกของเพื่อนพ่อให้ฟังว่าตอนนี้พี่หญิงอยู่อาร์เจนติน่านะ ไปกับโครงการ AFS  ตอนป.5 ป๊อปเคยไปเที่ยวเวียดนามกับพ่อประมาณอาทิตย์นึง ในกรุ๊ปทัวร์ที่ไปเที่ยวด้วยกันก็มีเพื่อนๆพ่อ แล้วก็มีพี่หญิงไปด้วย พี่หญิงเป็นคนมั่นใจในตัวเองมาก พ่อก็บอกว่า นี่ถ้าเป็นป๊อปนะ พ่อไม่กล้าให้ไปหรอกเป็นห่วง แล้วพ่อก็หันมาถามว่าถ้าลูกสอบได้ลูกจะไปไหม จำได้ว่าป๊อปตอบว่า ไป!” พ่อดูจะตกใจเพราะพ่อหันมาถามว่า ไปเหรอ???แล้วป๊อปก็จะไปจริงๆในอีก 4 เดือนข้างหน้านี้แล้ว!
ป๊อปเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนสนิทคนนึงฟัง เพื่อนป๊อปก็สนใจเหมือนมัน เราก็เลยหาข้อมูลมาแล้วมาดูด้วยกัน แต่ตอนนั้นทุน UCE มันปิดรับสมัครไปแล้ว ก็ต้องรอปีหน้า แต่พอป๊อปได้ค้นหาข้อมูลเรื่องทุนนี้ ข้อมูลหนึ่งก็ลิงค์ไปยังอีกหลายข้อมูล ป๊อปเลยได้ดูเรื่องทุนนักเรียนแลกเปลี่ยนต่างๆ อ่านเรื่องของหลายๆคนทั้งดี และไม่ดี (ส่วนใหญ่จะอ่านในเว็บเด็กดี ตามลิงค์ที่เคยแปะไว้) ยิ่งอ่านยิ่งอยากลองไปสอบ อย่างเรื่องพี่ตั่วที่ป๊อปเคยเล่าให้ฟังนี่ถึงกับเก็บไปฝันเลย ป๊อปกับเพื่อนสนิทคุยกันเล่นๆว่าเดี๋ยวจะลองไปสอบมันทุกทุนเลย จากเล่นๆก็เริ่มจริงจัง พอขึ้นม.3 อายุก็ถึงเกณฑ์ที่จะสอบได้ ก็เลยไปลองดู
ป๊อปไม่ใช่คนเก่งภาษาอังกฤษ จริงๆต้องเรียกว่าแย่มาก 5 วิชาหลัก ไทย อังกฤษ คณิต วิทย์ สังคม อังกฤษนี่แหละแย่สุด เกรดที่ด้น้อยที่สุดในชีวิต 2.5 ก็ได้มากับวิชาภาษาอังกฤษนี่แหละ  ตอนเด็กๆแม่เคยจับไปเรียนภาษาอังกฤษทีนึง ป๊อปต้องเริ่มเรียนตั้งแต่ระดับแรกสุดเลย เรียน ABC ใหม่ ตอนนั้นป๊อปอยู่ป.3 แต่เกือบทุกคนในห้องอยู่อนุบาล 3 พอเดินไปเจอเพื่อนที่โรงเรียน เพื่อนเค้าเรียนระดับสูงกว่ากันทั้งนั้นเลย ฝังใจมาก ป๊อปเลยยิ่งเกลียดภาษาอังกฤษมากขึ้นไปอีก เรียนได้ 2 คอร์ส ก็เลิก จนตอนม.2 ป๊อปไปซัมเมอร์กับโรงเรียนที่ เซี่ยงไฮ้,จีน 3 อาทิตย์ ภาษาจีนป๊อปไม่ค่อยดีเท่าไหร่หรอก ใน 3 อาทิตย์นั้นถ้าพูดกับครูคนจีนส่วนใหญ่ก็ใช้ภาษาอังกฤษ แต่ถ้าไม่ใช่ครูก็ต้องมั่วไปทุกภาษาทั้งภาษามือ ภาษาจีน ภาษาอังกฤษ วาดรูปทำทุกอย่างให้เค้ารู้เรื่อง หลังจากกลับมาป๊อปก็ชอบภาษาอังกฤษมากขึ้นนิดนึง เพราะป๊อปเพิ่งรู้ตัวว่าสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีพอใช้ได้  พอเริ่มสนใจในทุนแลกเปลี่ยนมันก็เลยเกิดแรงบันดาลใจที่จะตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษจนดีขึ้น ปีนั้นป๊อปเตรียมตัวอยู่หลายเดือน ซุ่มไม่บอกใครว่าเราเอาจริงจนถึงเวลาสอบ 555 ปรากฏว่าพอจะสอบเพื่อนสนิทป๊อปก็เปลี่ยนใจไม่อยากสอบแล้ว แถมเพื่อนอีกคนที่จะไปสอบด้วยกัน วันนั้นดันตื่นสายละก็ลืมไปเลยว่าวันนั้นมีสอบ AFS 555 สุดท้ายเลยต้องไปสอบคนเดียว
พูดถึงเรื่องทุนนะ เผื่อมีใครสนใจนี่เป็นรายชื่อทุนที่ป๊อปเคยหาไว้ ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมจากชื่อทุนดูถ้าสนใจ
  1. AFS
  2. AYC
  3. ICE
  4. SEA
  5. EF
  6. YES
  7. IES
แต่เนื่องจากเป็นเด็ก AFS (ในวงการเค้าเรียกกันว่า AFSer) เลยขอเชียร์ AFS เต็มที่ ตอนนี้ระเบียบการสมัครสอบรุ่นที่ 51 ออกแล้ว http://docs.google.com/viewer?url=http%3A%2F%2Fwww.afsweblink.org%2FYP12%2FYP12_1.pdf

 ใครที่สนใจอยากรู้อะไรฝากคำถามไว้ที่บล็อกนี้ได้ หรือ เข้าไปเช็คใน www.afser.in.th หรือถ้าอยากคุยกับป๊อปแอดเฟซบุ๊คมาได้ที่ Thanrin Hiranwong 

วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2554

เปิดบล็อก!

ในที่สุดก็มีบล็อกเป็นของตัวเองตามแรงยุ และแรงอยาก

แนะนำตัวก่อน : )
ชื่อ ป๊อป (ธารริน)
นักเรียน ม.4 สายวิทย์คณิตโรงเรียนปรินส์ฯ เชียงใหม่ 
นักเรียนแลกเปลี่ยน AFS รุ่นที่ 50 ประเทศอิตาลี (กันยายน 2011 - กรกฎาคม 2012)
ป๊อปชอบ เที่ยว ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ และกินของอร่อยๆ!

        ตอนแรกเพื่อนๆพากันยุให้เล่าเรื่องการสอบ การสมัครต่างของ AFS ในเฟซบุ๊ค แต่ป๊อปว่าเขียนลงบล็อกสนุกกว่าเยอะ จริงๆบล็อกนี้ตั้งใจจะเขียนเป็นเหมือนบันทึกระหว่างไป และก่อนไปอิตาลี เพราะมีรุ่นพี่ (พยายามจะค้นว่าชื่อพี่อะไรแต่ หากระทู้ไม่เจอจริงๆ  )แนะนำว่า ควรจะเขียนบันทึกไว้ ว่าเราผ่านอะไรมาบ้าง คาดหวังอะไรบ้าง ยิ่งเป็นบันทึกออนไลน์ เช่นบล็ิอก ที่มีคนอื่นได้รับรู้ด้วยก็ยิ่งดี 
       ป๊อปตั้งใจว่าเดี๋ยวพอไปแล้ว จะเขียนเรื่องที่พบเจอ โพสต์รูปสวยบ้างไม่สวยบ้างที่ถ่ายมา เป็นการเล่าให้พ่อ แม่ พี่ น้อง และเพื่อนๆ ได้รู้ไปด้วย แบบนี้ทุกคนจะไม่เป็นห่วง ป๊อปก็ไม่เหงา เรื่องที่เขียนก็จะไม่หายไปไหน
      ก่อนจะสอบ AFS ป๊อปเคยอ่านเรื่องของพี่คนนึงในเว็บ เด็กดี ชื่อ พี่ตั่ว วิภาวี นักเรียนแลกเปลี่ยนทุน AYC ประเทศอเมริกา เรื่องของพี่ตั่วเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจที่ทำให้ป๊อปอยากเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน พี่เค้าเล่าเรื่องสนุกมากๆ น่าเสียดายที่ป๊อปจำชื่อเรื่องไม่ได้แล้ว ถ้าใครอยากอ่านลองเข้าตามลิงค์นี้   http://www.dek-d.com/writer/list.php?main=3&sub=8  มีเรื่องราวของหลายๆคน และมีพี่ตั่วเป็นหนึ่งในนั้น
       ตอนนี้เหลือเวลาอีก ประมาณ 5 เดือนก่อนเดินทาง อยากเขียนเล่าเรื่องที่ผ่านๆมา เพราะนึกถึงตัวเองก่อนจะสอบอยากรู้ข้อมูลเยอะๆ อยากรู้หลายๆอย่าง แต่ก็ไม่กล้าแอดเมลล์รุ่นพี่มาถามดู เลยต้องหาข้อมูลจากหลายๆที่ มาปะติดปะต่อกัน (ต้องขอบคุณรุ่นพี่นักเรียนแลกเปลี่ยน AFS และโครงการอื่นๆมากๆเลยค่ะ : D) แต่มันก็มีบางอย่างที่ไม่มีใครบอก จนเรามาเจอด้วยตัวเอง เลยตั้งใจว่า เดี๋ยวจะเล่าให้คนอื่นๆฟังบ้าง